3 ปรัชญาขงจื้อ ที่ควรศึกษา

ขงจื้อ หนึ่งในบุคคลที่มีความยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นความคิด หรือไอเดียต่าง ๆ ที่นำเสนอออกมา โดยที่คำสอน และปรัชญามากมายของขงจื้อดังกึกก้องไปทั่วโลก โดยที่คำสอน และปรัชญาต่าง ๆ ของขงจื้อถือว่ามีมามากกว่า 2,500 ปีแล้ว โดยที่คำสอนแหล่านั้นก็ยังคงอยู่ และยากที่จะลืมเลือนไป และวันนี้เราจะมาดู 3 ปรัชญาขงจื้อ ที่สามารถนำเอาไปเป็นแนวคิด และกุญแจในการนำทาง เพื่อให้สามารถประสบความสำเร็จทั้งในชีวิต และหน้าที่การงานได้

จุดเริ่มต้นของขงจื้อ

จุดเริ่มต้นเรื่องราวต่าง ๆ ของขงจื้อ เกิดขึ้นตั้งแต่ 551 ปีก่อนคริสตกาล โดยขงจื้อมีอายุยาวนานถึง 73 ปี โดยอาศัยอยู่ที่ประเทศจีน โดยในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่ประเทศจีนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์การเมืองที่เต็มไปด้วยปัญหาต่าง ๆ มากมาย เพื่อความสงบ และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ สังคมจีนจึงได้นำเอาแนวทางการสอนของขงจื้อ เข้ามาเป็นแนวทางปรัชญาการใช้ชีวิต โดยที่ทุกฝ่ายก็ได้นำเอามาใช้ และลงเอยกันดีด้วย หรือที่รู้จักกันในชื่อ ลัทธิขงจื้อ โดยที่หลักคำสอนของขงจื้อก็จะเป็นในเรื่อง ความเมตตากรุณา และความยุติธรรม ก้าวข้ามอัตตา และศีลธรรมของบุคคล ซึ่งรวมไปถึงเรื่องการปกครองบ้านเมืองอีกด้วย

ความรู้ที่แท้จริง : เข้าใจว่าอะไรที่คุณนั้นรู้ และยอมรับว่าอะไรที่คุณนั้นไม่รู้ นั่นคือความรู้ที่แท้จริง

เราควรมีวิถี ในการดำเนินชีวิต ในแบบที่ อยู่และมองเห็นกับ ความเป็นจริง และซื่อสัตย์ ต่อความสามารถของตัวเอง ที่จะส่งผลโดยตรงต่อการที่บุคคลเหล่านั้นมีความมั่นใจในตัวเอง ความเย่อหยิ่ง ที่มีมากจนเกินไป จะนำพาตัวเราไปสู่ ความหายนะ เพราะฉะนั้น การดำเนินชีวิตที่ดีนั้น ควรใช้ชีวิตด้วย ความอ่อนน้อมถ่อมตน เพื่อเปิดโอกาศตัวเอง ได้เรียนรู้และมองเห็นโลก ได้กว้างขึ้น

สิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดี : เป็นเรื่องง่ายที่จะเกลียดและเป็นเรื่องที่ยากที่จะรัก นี่คือหลักการทำงานของสิ่งต่างๆ ความดีกว่าที่จะเห็นผลมันยากแต่ความไม่ดีกลับเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับ

ทุกความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในชีวิตต้อง ล้วนแล้วต้องใช้ความพยายาม เพื่อที่จะได้ความสำเร็จที่คุ้มค่า ซึ่งก็ต้องอาศัยความพากเพียร เพื่อให้ได้มา เป็นเรื่องง่าย ที่จะยอมแพ้ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ ของคนเราเมื่อเจอกับ เรื่องที่ไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ หรือต้องการ เมื่อเจอกับอุปสรรค เราต้องพยายาม หาวิธีการแก้ใข ในเชิงบวกเพื่อที่จะได้ ทำต่อให้จนประสบความสำเร็จ จงจำไว้ว่า ทุกอย่างที่มีคุณค่าในชีวิต ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ โดยที่ไม่พยายามที่จะ ทำอะไรเลย

ความสวยงามกับความเป็นจริง : ทุกอย่างมีความสวยงามแต่ทุกคนไม่เห็น

ความเป็นจริงนั้น มองเห็นค่อนข้างยาก ขึ้นอยู่กับความรู้ และประสบการณ์ของเรา คนสองคนอาจเดินผ่าป่าเดียวกัน ในณะที่คนแรกนั้น มองเห็นต้นไม้เท่านั้น ในขณะที่อีกคน นอกจากมองเห็นต้นไม้ แล้วยังมองเห็นใบไม้ มองเห็นวงจร ในการเจริญเติบโต มองเห็นแมลง จำนวนมากมายหลายรูปแบบ ที่อาศัยอยู่ในเปลือกต้นไม้