หากพูดถึง โรคไหลตาย ในอดีตที่ผ่านมาทางภาคอีสานมักจะมีความเชื่อกันว่ามี ผีแม่หม้ายมาเอาตัวไป เพราะส่วนใหญ่มักจะเกิดกับชายหนุ่มที่มีความแข็งแรง มีสุขภาพดีไม่น่าจะเป็นอะไรง่าย แต่เมื่อเข้านอนหลับพักผ่อนตอนกลางคืนก็กลับพบว่าเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ
โรคไหลตาย จริง ๆ แล้วคืออะไร
โรคนี้จริง ๆ แล้วเกิดจากกลุ่มอาการ Brugada Syndrome เป็นโรคทางกรรมพันธุ์ชนิดหนึ่ง ทำให้เกิดความผิดปกติของการนำไฟฟ้าหัวใจ หรือโครงสร้างหัวใจผิดปกติ ส่งผลให้ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง และไม่บีบเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ จึงทำให้เสียชีวิตขณะนอนหลับ
โดยโรคนี้พบได้น้อยมากคือประมาณ 0.004% เท่านั้น และผู้ป่วย Brugada Syndrome ในประเทศไทยจากสถิติพบว่ามีประมาณ 40 คน จากจำนวนประชากร 100,000 คน ซึ่งจะพบมากในภาคอีสาน ผู้ชายจะมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้หญิง มักจะเป็นในผู้ชายที่มีอายุอยู่ในช่วง 20 – 50 ปี
ปัจจัยสำคัญของการเกิด โรคไหลตาย
- เคยมีประวัติคนในครอบครัวเสียชีวิตเฉียบพลันตั้งแต่อายุน้อย
- เคยหน้ามืดหมดสติโดยไม่มีสาเหตุ
อาการที่สามารถพบได้ของ โรคไหลตาย
ถึงแม้โรคนี้จะเสียชีวิตขณะนอนหลับโดยไม่มีอาการใด ๆ มาก่อนแต่ก็มีผู้ป่วยที่รู้สึกผิดปกติแล้วไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์ก็ได้วินิจฉัยแล้วพบว่าเป็นโรคไหลตาย โดยอาการก็มีดังนี้
- รู้สึกใจสั่น
- วูบ เป็นลม หมดสติไปชั่วขณะ
- มีอาการเวียนศีรษะ
- ชัก
- หายใจลำบาก ติดขัด
- รู้สึกเจ็บหน้าอก
- ถูกตรวจพบว่าหัวใจบ้างห้องเต้นผิดจังหวะแบบรุนแรง
- เมื่ออาการกำเริบตอนที่หลับอาจมีเสียงหายใจครืดคราดคล้ายละเมอ
สิ่งที่ทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะผู้เป็น โรคไหลตาย
หากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคไหลตาย ก็ควรหลีกเลี่ยงการที่จะทำให้หัวใจใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงซึ่งปัจจัย ได้แก่
- การมีไข้สูง
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ร่างกายขาดน้ำ ขาดแร่ธาตุ
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ หรือยาที่มีผลต่อแร่ธาตุในร่างกาย
วิธีรักษา โรคไหลตาย
ถึงแม้จะยังไม่มีวิธีรักษา แต่โดยส่วนใหญ่แพทย์จะใช้วิธีลดความเสี่ยง เช่น การฝังเครื่องกระตุกหัวใจ การใช้เครื่องซ๊อตไฟฟ้าหัวใจ ใช้ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ เป็นต้น
ถึงแม้ โรคไหลตาย จะพบได้น้อยแต่ก็ไม่ควรละเลย หากพบว่ามีอาการต่าง ๆ ที่น่าสงสัยอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น หรือพบว่ามีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคดังกล่าว ควรรับไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านโรคหัวใจ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย ประเมินความเสี่ยงเพื่อเข้ารับรักษาที่เหมาะสมต่อไป